Loading...

Menu

Menu

ที่ท่องเที่ยว

ที่เที่ยวลำพูน- รถเช่าเชียงใหม่

ที่เที่ยวลำพูน

ลำพูน เมืองสงบ บรรยากาศน่ารัก มีวัฒนธรรมแบบล้านนาอันเก่าแก่ เมื่อเราก้าวเข้าสู่เมืองลำพูนสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือ บรรยากาศของบ้านเมืองที่น่าอยู่ ผู้คนใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ กิน อยู่อย่างเรียบง่าย ยังมีวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบดั้งเดิมอยู่มาก ในตัวเมืองลำพูนมีวัดวาอารามเก่าแก่ งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเฉพาะถิ่นให้ได้เยี่ยมชมมากมาย ถัดจากนอกเมืองออกไปก็มีธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์ให้ได้สัมผัส มีชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น


วัดพระธาตุหริภุญชัย

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา พระธาตุหริภุญไชยเป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลาย วิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า ภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกหลายอย่าง ไห้เราได้กราบไหว้บูชา อาที วิหารพระเจ้าทันใจ,วิหารพระเจ้าองค์แดง,รอยพระพุทธบาทสี่ดวง,วิหารพระนอน


พระพุทธบาทพระธาตุอินทร์แขวน

ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำพุ ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง แห่งจังหวัดลำพูน ซึ่งตังอยู่บนยอดเขามีชื่อว่า ดอยถ้ำหิน สำหรับที่มาของการสร้างองค์พระธาตุอินทร์แขวนมากจากที่ว่า ชาวบ้านเห็นก้อนหินใหญ่ 2 ก้อนริมเผาที่ตั้งซ้อนกันดูแล้วเหมือนใกล้จะตกจากผามีคนเคยไปผลักและเอาไม้คานไปงัดถึง 10 คน แต่ก็หินก้อนที่อยู่ข้างบนก็ไม่ร่วงลงมา จึงปล่อยก้อนหินใหญ่ 2 ก้อนเอาไว้เหมือนเดิม ต่อมาครูบาชัยยะวงศาพัฒนา เกจิชื่อดังแห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ ท่านนั่งทางในนิมิตเห็นหินก้อนนี้ จึงให้ลูกศิษย์ออกตามหา ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรกว่าจะเจอ ซึ่งดอยแห่งนี้มีความสำคัญคือ บนลานใกล้ๆกับก้อนหินใหญ่มีรอยหินที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทประทับอยู่ จากนั้นจึงมีการสร้าง องค์พระธาตุขึ้นบนก้อนหิน ลูกด้านบน โดยจำลองลักษณะของพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า และได้สร้างองค์พระธาตุไว้บนก้อนหินดังกล่าว


วัดจามเทวี

ตั้งอยู่บนถนนจามเทวี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมา ตั้งแต่สมัยล้านนาไทย ที่มีความสําคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีตามหลักฐานที่ได้พบศิลาจารึกเชื่อว่า พระราชโอรส ของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์ แห่งนครหริภุญชัย โปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง และสร้างเจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทองทองเรียกชื่อว่า สุวรรณจังโกฏิ หรือพระเจดีย์จามเทวี เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆพรศิลปกรรมของลพบุรีมีพระพุทธรูป ยืนปาง ประทานพรอยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้านด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ ภายในพระเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ถือเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่มีความสําคัญในศิลปกรรมหริภุญชัย


พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง ตั้งอยู่ในเมืองลำพูน ด้านหลังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหริภุญชัย โดยใช้พื้นที่ของคุ้มเจ้าราชสัมพันธ์วงษ์ ลำพูน ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน เมืองที่มีความศรัทธา ทางพระพุทธศาสนาที่รุ่งเรืองจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ร่วมเรียนรู้เมืองลำพูนผ่านภาพถ่าย ทั้ง บุคคล เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่มีชีวิตโดยมีการจัดแสดงภาพ เมืองลำพูน สิ่งของเครื่องใช้และวิถีชีวิตของ ชาวเมืองลำพูน ในอดีตได้อย่างงดงามเข้าใจง่าย


วัดสันป่ายางหลวง

วัดสันป่ายางหลวง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสันป่ายางหลวงตำบลในเมือง อำเภอเมือง เป็นวัดที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุด ในประเทศไทย ภายในวัดสันป่ายางหลวงมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะวิหารพระโขงเขียว มีการแกะสลักละลายปูนปั้นที่สร้างไว้ในพระวิหารอย่างละเอียดและวิจิตรสวยงามยิ่งแม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง รวมทั้งเสาพระวิหารก็จะมีลายแกะสลักลงรักปิดทองไว้ แม้ถึงบ้านประตู-หน้าต่าง ทุกบาน วิหารพระโขงเขียว เป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง


กู่ช้าง กู่ม้า

กู่ช้าง กู่ม้า เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือ เมื่อต้องการ สมหวังในสิ่งใด ก็มักจะมา ขอพรกันที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นทั้งโบราณสถานที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ตลอดจนเป็น ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนในชุมชน ด้วยความเชื่อว่าเป็นสุสานช้างศึก – ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือกู่ช้างมาก มีการสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ในทางทิศตะวันออกใกล้กับองค์เจดีย์ด้านหน้า ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาสักการะ เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา


อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ตำบลในเมือง บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม ความสามารถและกล้าหาญ ได้นำพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมารได้เสด็จมาทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525



วัดมหาวัน

วัดมหาวันวนาราม ตั้งอยู่ใกล้คูเมือง ด้านทิศตะวันตก ถ.จามเทวี ในเขตเมืองลำพูน ความสำคัญ คือวัดแห่งนี้เคยเป็นพระอารามหลวง ของพระนางจามเทวี สิ่งที่น่าชมคือ พระพุทธสิกขิ หรือพระศิลาดำ ซึ่งพระนางจามเทวีอัญเชิญมา จากเมืองละโว้ ชาวเมืองเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระรอดหลวง หรือพระรอดลำพูน ซึ่งมีความสำคัญและเป็นแบบพิมพ์ใน การจำลองทำพระเครื่อง ที่ลือชื่อคือ พระรอดมหาวัน พระรอดได้ขุดค้นพบที่วัดมหาวันเพียงแห่งเดียวเท่านั้นเนื้อดินเผาละเอียด หนักนุ่มมาก องค์พระประทับนั่ง ขัดเพ็ชรปางมารวิชัยประกอบด้วยพื้นผนังใบโพธิ์ทั้งสองด้าน มีศิลปะโดยรวมแบบทวาราวดี – ศรีวิชัย เป็นรูปแบบเฉพาะของสกุล ช่วงสมัยหริภุญไชย


วัดพระยืน

วัดพระยืน ตั้งอยู่ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของลำพูน มีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระเจดีย์พระยืนเป็นศิลปกรรมพม่า ทรงมณฑป มีพระพุทธรูปยืนทั้งสี่ทิศ เครื่องบนประกอบด้วยเจดีย์ห้ายอด โดยมีเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นประธาน คล้ายกับอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกาม และพระเจดีย์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย เป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามมาก

การเดินทาง

วัดพระยืนอยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เดินทางโดยตรงเข้าเมืองลำพูนทางแยกดอยติ (แยกจาก หมายเลข 11 เข้าหมายเลข 114) ประมาณ 4 กิโลเมตร มีทางแยกเลี้ยวขวาเข้าไปที่ทำการอำเภอเมือง อีกประมาณ 500 เมตร วัดพระยืนจะอยู่ ทางขวามือ


อำเภอลี้ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ครอบคลุมพื้นที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูนที่ ได้ขึ้นชื่อว่าบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและทัศนียภาพ สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งภูเขา น้ำตก และทุ่งหญ้ากว้าง เหมาะสำหรับคนที่รักความสงบและชื่นชมในความเป็นธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจดังนี้


แก่งก้อ

ก่งก้อ มีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แก่งก้อยังเป็นจุด ครึ่งทางของการสัญจรทางน้ำระหว่างเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากและ อ่างเก็บน้ำดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำของอุทยานแห่งชาติ -แม่ปิง ซึ่งรองรับการทำกิจกรรม ทางน้ำต่าง ๆ เช่น การนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำปิง การลากเรือนแพไปตามลำน้ำ เล่นน้ำ ตกปลา ปีนหน้าผาริมน้ำปิง และยังสามารถ เดินทางไปท่องเที่ยวใน จุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ในแม่น้ำปิงได้อีก เช่น โรงเรียนเรือนแพ อุ้มปาด ถ้ำช้างร้อง


ชมทิวทัศน์แม่ปิงและพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวดอยกระตึก

จุดชมวิวอยู่บนดอยกระตึก ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามหน่วยพิทักษ์ฯ แก่งก้อต้องนั่งเรือข้ามไประยะทาง 1 กม. สามารถสอบถามเรือกับทางอุทยานได้ ค่าเรือ คนละ 20 บาท หลังจากนั้นต้องเดินขึ้นดอยชันระยะทางประมาณ 400-500 ม. ควรใส่รองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าป้องกัน กางเกงขายาว เตรียมพร้อมมา ให้เรียบร้อย เนื่องจากเส้นทางรกมีกิ่งไม้แห้งอาจโดนต้นขาได้ จากจุดชมวิวดอยกระตึก สามารถมองเห็นแม่น้ำปิงไหลมาจากด้านเหนือ และเวิ้ง ทะเลสาบ สลับเทือกเขาและป่าเต็งรัง นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม


น้ำตกก้อหลวง

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 22 กิโลเมตร รถยนต์สามารถเข้าไปถึง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างดีของชาวจังหวัดลำพูน และจังหวัดใกล้เคียง น้ำตกก้อหลวงเป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำน้ำในห้วยแม่ก้อ ไหลผ่านหินดินดานเทาดำและหินทรายของหน้าผาที่มีความสูงต่าง ระดับกันลดหลั่นกันลงมามีทั้งหมด 7 ชั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหินปูนและมีน้ำไหลตลอดปี จึงทำให้บริเวณน้ำตกมีหินงอกหินย้อยมากมาย และมีความสวยงามตามธรรมชาติ บริเวณน้ำตกยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สะอาดไม่มีสิ่งใดรบกวน ทำให้มีปลาชนิดต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย


น้ำตกตาดสะตอ

อยู่ในเส้นทางเดียวกับน้ำตกก้อหลวงที่ไหลขนานมากับทางเดินเท้า และไหลตกลงมาจากผาหิน สูงประมาณ 15 ม. ลงมายังแอ่งน้ำสีมรกต บริเวณ หน้าผาซึ่งเป็นหินปูนอ่อนสีน้ำตาล สายน้ำได้ชะเอาหินปูนมาสะสมทำให้เกิดลานหินงอกออกมาคล้ายหินย้อยดูแปลกตา แต่ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เป็นเพียงจุดชมน้ำตกเท่านั้น


ทุ่งกิ๊ก

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 14 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ อยู่ด้าน ทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเนินเขาปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสลับป่าเต็งรัง มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ป่าจำพวก เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ไก่ป่า และนกชนิดต่างๆ มากมาย ในช่วงฤดูแล้งดอกไม้ป่าหลายชนิดจะพากันบานเต็มทุ่งกิ๊ก สวยงามน่าชมมาก บริเวณทุ่งกิ๊กนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบกิจกรรมดูนก ซึ่งมีนกที่พบเห็นได้ง่าย เช่น นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานเขียวป่าไผ่ นกกระทาทุ่ง ฯลฯ จากบริเวณทุ่งกิ๊กเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร จะพบน้ำตกก้อน้อย ซึ่งเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ระหว่างทางจะพบ กับดงเถาวัลย์ที่สวยงาม


ชุมชนพระบาทห้วยต้ม

ชุมชนพระบาทห้วยต้ม อยู่ในความดูแลศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม ชุมชนที่มีความแตกต่างชัดเจนในเรื่องของประเพณี วัฒนธรรม ความสวยงามของวัดวาอารามและวิถีชีวิต สามารถสัมผัสได้ที่ ชุมชนพระบาทห้วยต้ม มาเที่ยวชุมชนพระบาทห้วยต้ม สามารถเลือกพักผ่อนแบบค้างคืนนอนโฮมสเตย์ร่วมกับคนในชุมชน หรือเลือกเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ นักท่องเที่ยวจะได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอที่ผูกพันกับพุทธศาสนา ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น การทอผ้าโบราณแบบกี่เอว ใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นย้อมสี มีลวดลายโบราณ เช่น เสื้อ กางเกง ผ้าถุง กระเป๋าสะพาย การทำเครื่องเงินที่ใช้วัตถุดิบจากเงินแท้ เช่น สร้อยคอ กำไล แหวน ข้าวของเครื่องใช้ มีเป็นเอกลักษณ์ลวดลายที่อ่อนช้อยงดงามดัดแปลงจากธรรมชาติ เช่น รูปปลา ผีเสื้อ ลายดอกไม้ สะท้อนถึงภูมิปัญญาในด้านจิตใจความเชื่อของชนเผ่า รวมทั้งการทำเครื่องประดับจากกะลามะพร้าว เครื่องจักสาน จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปที่ได้รับการยอมรับ สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชนจนถึงปัจจุบัน


พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย

เจดีย์สีทองเหลืองอร่าม โดดเด่นแต่ไกล เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอำเภอลี้ให้ความเคารพนับถือ จำลองมาจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า จึงมีอีกชื่อว่า ชเวดากองเมืองไทย เป็นพระเจดีย์ที่ออกแบบและริเริ่มโดย ครูบาวงศ์และคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี


วัดพระพุทธบาทผาหนาม

ปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอลี้แล้ว ยังเป็น จุดชมวิวของเมืองลี้ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเคล้าสายหมอกบางในยามเช้าได้อย่างงดงาม เป็นวัดที่เจริญรุ่งเรื่องด้วยศรัทธาและสิ่งก่อสร้างมากมาย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ โดยเฉพาะรูปปั้นปูนขนาดใหญ่ของครูบาอภิชัยขาวปีในเครื่องนุ่งห่มแบบชีปะขาวอยู่เชิงดอยผาหนาม ในวันที่ 13 -17 เดือนเมษายน ของทุกปีจะมีงานนมัสการสรงน้ำเป็นประจำ โดยจะมีประชาชนทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันมาทำบุญเป็นจำนวนมาก


วัดพระบาทห้วยต้ม

วัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ ระหว่างทางที่เข้ามาในบริเวณวัด มีหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นวัดประจำหมู่บ้านที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านห้วยต้ม ภายในวัดมีวิหารที่บรรจุร่างของครูบาวงศ์ ซึ่งไม่เน่าไม่เปื่อยไว้ในโรงแก้ว มีรอยพระพุทธบาทที่เชื่อว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา ณ ที่นี่ ครูบาวงศ์จึงได้สร้างรอยพระบาทจำลองครอบของจริงไว้



วัดพระพระธาตุห้าดวง

วัดนี้เป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 องค์ ตามตำนานกล่าวว่าพระนางจามเทวี กษัตริย์ครองเมืองหริภุญไชย ได้ทราบข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่า มีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏเห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เสด็จมาดูด้วยพระองค์เอง ได้สอบถามความเป็นมา

ทราบว่า คือ พระเมโตธาตุ (น้ำไคลมือ) พระพุทธเจ้า ที่เคยล้างพระหัตถ์และน้ำก็ไหลผ่านปลายนิ้วทั้ง 5 ลงพื้นดิน พระนางจึงเกิดศรัทธาสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบกองดินทั้ง5 กองไว้ ภายในวัดมีพระอุโบสถและสิ่งก่อสร้างที่สวยงามและน่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะอุโบสถสีทองซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าวัด มีบันไดพญานาคยาวไปถึงตัวอุโบสถ ภายในอุโบสถมีองค์พระพุทธรูปสีทองงดงามมาก


วัดพระธาตุดวงเดียว

อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่งดงามในอำเภอลี้ ตามตำนานเล่าว่า พระนางจามรี ผู้สร้างเมืองลี้ได้รวบรวมไพร่พล อพยพมาจากเมืองหลวงพระบาง ได้พบกับช้างมงคลจึงได้อธิษฐาน และเดินทางล่องมาตามแม่น้ำปิงจนถึงแม่น้ำลี้ ได้พบสถานที่เหมาะสำหรับตั้งบ้านเรือนเป็นหินใหญ่คล้ายไข่นกยูง ช้างมงคลก็ล้มลงที่จุดนั้น พระนางจามรีจึงเผาซากช้างและสร้างเจดีย์ครอบไว้ เรียกว่าเจดีย์ดวงเดียว